Picture: Vidyadhara
Refer to : http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3459.0
๐ วิทยาธรอ่อนรัก.............หวังพักภิรมย์นรีผล
กลิ่นกามาพาชื่นชน..........สุนนท์สาวสกาวไพร ฯ|
๐ งามเพศนางเจ็ดราตรี....แล้วปี้ป่นเป็นผงไซร้
บางรู้อนิจจาใจ.................บางใฝ่รักยิ่งชิงนาง ฯ|
○ เพราะโลกียสุขี.............โลกมีโมหันไม่ร้าง
นรีผลกลหลงทาง............ลืมว่างจิตสิทธาเอย ฯ|~
(By เอ็ม. รุทรกุล)
ถอดคำประพันธ์: วิทยาธรผู้ยังอ่อนต่อโลกและความรัก ต้องการมีสัมพันธ์สวาทกับนางมักกะลีผล เพราะความปรารถนาในกามเป็นเหมือนกลิ่นที่ทำให้ชายชื่นชมยินดีสตรีคือนางมักกะลีผลทั้งหลายที่ผิวขาวงามในป่า (แห่งตัณหา) ความงามของนางจะอยู่เพียงเจ็ดวัน (กามสุขภูมิเจ็ดชั้น) หลังจากนั้นนางก็จะสลายกลายเป็นผงหายไป (อรูปภูมิ) ทำให้บางชายบางคนรู้ถึงความไม่เที่ยงแท้ในความรัก แต่ชายบางคนยังติดพันในความรักยิ่งขึ้น จึงต่อสู้ดิ้นรนแย่งชิงสตรีงามกันเพื่อความสุขทางโลก ทำให้โมหะหรือความลุ่มหลงในกิเลส และตัณหาไม่เคยหมดไปจากโลกใบนี้ นางมักกะลีผลเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความจริงที่เป็นอนัตตา กับมายาคติเกี่ยวกับความรักและกามตัณหา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ววิทยาธรหรือชายทั้งหลายหลงลืมและว่างเว้นการฝึกจิตแบบนักบวช (เพื่อความสุขทางโลกุตรธรรม ความสุขเหนือโลก โมกษะ หรือนิพพาน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น